สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง

สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง คืออะไร ตรวจสอบให้ชัด 11 ข้อตกลงที่ระบุในสัญญา

สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง หรือสัญญาก่อสร้าง เป็นสิ่งสำคัญหลังจากซื้อที่ดินมาแล้วต้องการจะก่อสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง ซึ่งก่อนจะทำการจ้างวานบริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้รับเหมาก่อสร้าง มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงและข้อควรระวังเกี่ยวกับสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง หรือสัญญาก่อสร้าง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้รับเหมาระหว่างการก่อสร้าง

อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง หรือสัญญาก่อสร้างคืออะไร

สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง หรือสัญญาก่อสร้าง คือ เอกสารสัญญาที่ระบุความตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ว่าจ้าง (เจ้าของบ้าน) ในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับงานที่ดำเนินการก่อสร้างตามที่กำหนดตามข้อตกลง และผู้รับจ้าง (ผู้รับเหมาก่อสร้าง) ที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างตามรายละเอียดที่ตกลงก่อสร้างตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาว่าจ้างจนแล้วเสร็จ

รายละเอียดที่ควรมีในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง

เนื้อหาสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง จะต้องมีการระบุข้อความชัดเจน ปฏิบัติได้จริง และเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ดังนี้

1. วันที่และสถานที่ทำสัญญา เพื่อระบุให้ทราบว่าสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่และมีอายุสัญญากี่ปี

2. ข้อมูลส่วนบุคคลคู่สัญญาระหว่างผู้ว่าจ้าง (เจ้าของบ้าน) และผู้รับจ้าง (ผู้รับเหมาก่อสร้าง) ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน และข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนและตรวจสอบได้

3. ขอบเขตและลักษณะของเนื้องานที่รับผิดชอบ ผู้ว่าจ้างตกลงว่าจ้างผู้รับจ้างทำการก่อสร้างบ้านแบบไหนระบุลงในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของแบบบ้าน และสถานที่ที่ทำการก่อสร้าง

4. ราคา และรายละเอียดการจ่ายงวดงาน

– ค่าจ้างเหมาจ่ายทั้งหมด

– จ่ายชำระก่อนการเริ่มดำเนินการกี่เปอร์เซ็นต์

– แบ่งงวดงานออกเป็นกี่งวดงาน มีรายละเอียดอะไรบ้าง

– จ่ายชำระเงินงวดงานแต่ละงวดงานกี่เปอร์เซ็นต์

5. ระยะเวลาของสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง จนดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างโดยประมาณกี่เดือน

6. หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ว่าจ้าง (เจ้าของบ้าน) ควรมีรายละเอียดกำกับไว้อย่างชัดเจนในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง เช่น

– สิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับลดรายการและแบบก่อสร้างเดิม หรือปรับเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างภายในระยะเวลาที่กำหนดที่ตกลงกันไว้ โดยไม่ต้องยกเลิกสัญญาว่าจ้าง แต่ควรทำการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรและมีความตกลงยินยอมกันทั้ง 2 ฝ่าย

หากการเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจนกระทบกับความแข็งแรงและมาตรฐานของโครงสร้างตามแบบแปลนเดิม ผู้รับจ้าง (ผู้รับเหมาก่อสร้าง) มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ

– ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์สั่งหยุดงาน หากเห็นว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้องตามแบบแปลน หรือมีสิทธิระงับและไม่จ่ายค่างวดงานในส่วนดังกล่าว หากผู้รับเหมาไม่ทำการแก้ไขหรือซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายที่ไม่เป็นไปตามที่แจ้งให้แก้ไข

– ทำการตรวจรับงานแต่ละงวดงาน

7. หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง (ผู้รับเหมาก่อสร้าง)

– ผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการก่อสร้างให้ถูกต้องและแล้วเสร็จตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างในระยะเวลาที่กำหนด

– ผู้รับจ้างสามารถโอนงานให้ผู้อื่นได้ แต่ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดตามระบุในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง

– หากมีการเพิ่มเติมหรือลดงานส่วนใดส่วนหนึ่งที่ไม่เป็นไปตามแบบ ผู้รับจ้างจะต้องทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ว่าจ้างรับทราบ

– ผู้รับจ้างจะต้องทำการยินยอมให้ตัวแทนของเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของบ้านทำการตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง สถานที่ และขั้นตอนในการก่อสร้าง เพื่อตรวจประเมินผลงานตรงตามแบบแปลนและ BOQ หรือไม่

หากพบว่าวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่กำหนดในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ตัวแทนหรือเจ้าของบ้านมีสิทธิ์ที่จะระงับการดำเนินการก่อสร้างและปฏิเสธวัสดุที่ไม่ตรงตามรายละเอียดบัญชีก่อสร้างที่ระบุในสัญญาว่าจ้างได้ทันที

BOQ คืออะไร

BOQ คืออะไร

BOQ คืออะไร ทำไมเจ้าของบ้านควรรู้ก่อนลงมือสร้างบ้าน

8. เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง จะได้มีคุณภาพ เหมาะสมกับลักษณะงาน ควรมีเอกสารรายการระบุแนบท้ายเอกสาร เพื่อใช้ในการตรวจสอบ

9. การประกันคุณภาพผลงานหลังจากการรับส่งมอบงาน โดยระยะเวลาประกันงานขึ้นอยู่กับประเภทงานและการเจรจา โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 1-5 ปี ซึ่งหากเกิดความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวบ้านในระยะเวลาเอาประกัน ไม่ว่าจะเป็นหลังคารั่ว บ้านมีรอยแตกร้าว หรือสาเหตุอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับภัยธรรมชาติ ผู้รับจ้างตกลงทำการแก้ไข ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานดังเดิม

– ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบ้านทำการต่อเติมบ้านจนผิดหลักทางวิศวกร เป็นเหตุให้ตัวบ้านเกิดการชำรุดเสียหาย จะถือว่า “การประกันคุณภาพงาน” สิ้นสุดลงทันที

10. การยกเลิกสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างและสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหาย ควรทำการระบุให้ชัดเจน หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดเงื่อนไข จนเกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงต้องทำการระบุรายละเอียดเงื่อนไขเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้รับทราบและยินยอมรับผิดชอบหากเกิดกรณีดังกล่าว

11. การลงนามตกลงเซ็นสัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้าง จะประกอบไปด้วย

– ผู้ว่าจ้าง (เจ้าของบ้าน)

– ผู้รับจ้าง (ผู้รับเหมาก่อสร้าง)

– พยาน 1

– พยาน 2

สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างที่ดีช่วยป้องกันปัญหาระหว่างก่อสร้างบ้าน

ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างผู้จ้างงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง

ถึงแม้ว่าจะมีการตกลงทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างรองรับเรียบร้อยแล้ว แต่ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมาหลังจากเซ็นสัญญาว่าจ้างและเริ่มต้นดำเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น มีดังนี้

ปัญหาระหว่างก่อสร้างรายละเอียด
ก่อสร้างล่าช้าไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดระยะเวลา
โกงเงินมัดจำเบิกเงินมัดจำแล้ว แต่เข้างานช้า ทิ้งงาน และหนีงานในที่สุด
เปลี่ยนวัสดุ แปลนบ้านปรับเปลี่ยนวัสดุ แปลนบ้านจากเดิม จนเกิดการถกเถียงกัน
ผลงานไม่น่าพอใจผู้รับเหมาไม่มีคุณภาพ ไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง
เปลี่ยนทีมช่าง/ลดจำนวนช่างผลงานคุณภาพต่ำ ไม่เป็นที่น่าพอใจ งานล่าช้า
งบประมาณบานปลายจากการปรับเปลี่ยนวัสดุหรืออื่น ๆ จากที่กำหนดไว้เดิม

1. การก่อสร้างล่าช้าไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ในกรณีนี้อาจมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องที่ทำให้ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดระยะเวลา ซึ่งหากปัจจัยนั้นเกิดจากดิน ฟ้า อากาศ ที่ไม่สามารถควบคุมก็สามารถพูดคุยหรือยืดหยุ่นกันได้

แต่ถ้าหากเกิดจากการขาดความรับผิดชอบของผู้รับเหมา จากการที่ผู้รับเหมาไม่เข้าหน้างาน ทำงานล่าช้าในส่วนนี้ทางผู้รับเหมาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

2. ขอเบิกเงินเกินงวดงานหรือโกงเงินค่ามัดจำ โดยเบิกค่ามัดจำครั้งแรกสูง ๆ แล้วเข้างานช้า ผู้รับเหมาทิ้งงาน และหนีงานไปในที่สุด

3. เกิดข้อถกเถียงกันเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างหรือปรับเปลี่ยนแบบแปลนบ้านที่ใช้ก่อสร้าง

4. ผลงานไม่น่าพึงพอใจ เนื่องจากผู้รับเหมาไม่มีคุณภาพหรือไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง

5. ผู้รับเหมาเปลี่ยนทีมช่างผู้ชำนาญการ โดยช่วงแรกใช้ทีมช่างที่มีประสบการณ์ทำงานรวดเร็ว ผลงานเป็นที่น่าพอใจ หลังจากนั้นเปลี่ยนทีมช่างหรือลดจำนวนช่างที่มีประสบการณ์ทำให้ผลงานที่ได้มีคุณภาพต่ำไม่เป็นที่น่าพอใจ และงานเกิดความล่าช้า

6. งบประมาณการก่อสร้างบานปลาย จากการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมบางส่วนจากแบบแปลนที่กำหนดไว้

5 วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

5 วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

เลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไรให้คุ้มค่าทั้งเรื่องคุณภาพ และราคา ดูได้ที่นี่

สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ข้อควรระวัง

1. สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างมีความคลุมเครือ ควรระบุเงื่อนไข รายละเอียดต่าง ๆ ในสัญญาจ้างให้ชัดเจนไม่คลุมเครือ เพื่อป้องกันกรณีเจอผู้รับเหมาที่ไม่ดี ไม่มีความซื่อตรงในวิชาชีพ อาจทำให้เราเสียเปรียบได้ เมื่อตกลงเซ็นสัญญาว่าจ้างเรียบร้อยแล้ว

2. เปอร์เซ็นต์การจ่ายเงินแต่ละงวดเหมาะสมกับปริมาณงานหรือไม่ โดยอ้างอิงจากบัญชีแสดงราคาและปริมาณวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือ BOQ

3. ขั้นตอนการดำเนินการก่อสร้างกับระยะเวลาสมเหตุสมผลหรือไม่ ระบุวัน เวลา ที่ชัดเจนในการส่งงานในแต่ละงวดงานก่อนการจ่ายค่างวด

4. ระยะประกันงานหลังการก่อสร้าง กรณีเกิดความเสียหายหรือชำรุดหลังการส่งมอบงาน

5. สิทธิในการยกเลิกสัญญา กรณีผู้รับเหมาขาดความรับผิดชอบหรือไม่ดำเนินการตามที่ระบุในสัญญา

ตัวอย่างสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง หรือสัญญาก่อสร้าง ดาวน์โหลดได้ที่นี่

แม้ว่าการก่อสร้างบ้านโดยการจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือบริษัทรับสร้างบ้าน จะมีโอกาสได้บ้านที่ตอบโจทย์ตรงใจมากกว่าซื้อบ้านจัดสรร แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับการทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง หากยังสองจิตสองใจ ลองดูบ้านโครงการใหม่เพิ่มเติมได้ที่นี่

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น Falcon Generation ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท อนาวิล กรุ๊ป จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ